แต่งตัวให้ดอกไม้


มาลัยชายเดียว


วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2553

คติธรรมในการทำงาน

คนใจร้อน


หนุ่มเลือดร้อนเข้าไปนั่งในร้านก๋วยเตี๋ยวไม่ทันไรก็ตะโกนว่า
"ทำไมยังไม่ยกก๋วยเตี๋ยวมาสักที จะให้รอถึงชาติหน้าหรือไง"

สักประเดี๋ยวเจ้าของร้านก็ออกมาพร้อมก๋วยเตี๋ยวเต็มชาม
แต่พอถึงโต๊ะพ่อหนุ่มก็เทก๋วยเตี๋ยวกองบนโต๊ะแล้วบอกว่า

"ฉันต้องรีบใช้ชาม คุณเองก็รีบกินเข้า จะต้องรีบใช้โต๊ะ"

ชายหนุ่มเดือดดาลมาก กลับถึงบ้านก็เล่าให้ภรรยาฟังแล้วบอกว่า
"ฉันเนี่ยโกรธตายเลย" ภรรยาได้ฟังดังนั้นก็รีบเก็บข้าวของใส่กระเป๋า

แล้วพูดว่า "เนื่องจากเธอตายแล้ว ฉันจะไปแต่งงานใหม่"

วันรุ่งขึ้นหลังจากภรรยาแต่งงานใหม่
เจ้าบ่าวคนใหม่ก็ขอหย่าโดยให้เหตุผลว่า "ก็เธอไม่ยอมมีลูกสักที"







คนใจร้อนมักหงุดหงิดเวลาเจอคนที่ใจเย็น หรือเชื่องช้ากว่าตน
แต่ลองได้เจอคนที่ใจร้อนและเร็วกว่าตน ก็จะรู้ว่ามันแย่กว่ามาก

เวลาเราคาดคั้นเร่งรัดใคร เราไม่รู้ดอกว่าเราสร้างความทุกข์แก่เขาแค่ไหน
ต่อเมื่อถูกคนอื่นคาดคั้นเอากับเราบ้าง
จึงจะรู้ซึ้งแก่ใจว่าคนใจร้อนนั้นน่ารำคาญเพียงใด



ทุกวันนี้ใครต่อใครดูเร่งรีบกันไปหมด
เพราะเราพากันเชิดชูบูชาความเร็ว จะทำอะไรต้องให้เสร็จไว ๆ

ถ้าจะเปิดปุ๊บก็ต้องติดปั๊บ ถ้าจะกินกาแฟก็ต้องเป็นอินแสตนต์คอฟฟี่
ส่วนก๋วยเตี๋ยวก็ต้องเป็นมาม่าไวไวถึงจะถูกใจ

แม้กระทั่งเวลาทำสมาธิ ก็อยากบรรลุในวันนี้วันพรุ่ง
เราต่างถูกสอนว่าเวลานั้นเป็นเงินเป็นทอง


ดังนั้นจึงพยายามใช้เวลาอย่างประหยัดที่สุด
ทุกอย่างต้องให้เสร็จในเวลาน้อยที่สุด จะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่น

แต่น่าแปลกที่ว่ายิ่งรีบเท่าไร ยิ่งประหยัดเวลามากเท่าไร
เวลาว่างกลับเหลือน้อยลง วันแล้ววันเล่า
ชีวิตก็ยังยุ่งเหยิงตั้งแต่เช้ามืดจรดดึกดื่น

เป็นเพราะคอยไม่เป็น เราจึงเย็นไม่ได้เสียที
นั่นยังไม่เท่าไรหากว่าคนอื่น ๆ ใจเย็นกว่าเรา

แต่ถ้าคนรอบตัวล้วนใจร้อนพอ ๆ กัน โลกนี้ก็คือนรกดี ๆ นี่เอง

ลองช้าลงสักนิด เย็นลงสักหน่อย เราจะมีความสุขกว่านี้มาก
อย่างน้อยตัวเราก็จะเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น
ไม่เหมือนกับผู้จัดการในเรื่องข้างล่าง


จันทร์ต้นเดือนเริ่มด้วยความอลหม่าน ผู้จัดการเอียงคอหนีบหูโทรศัพท์
ขณะสั่งงานเลขาฯ ส่วนมือก็กดแป้นคอมพิวเตอร์ไวเป็นระวิง

ประเดี๋ยวก็รีบไปคว้าแฟ้มในตู้ พลิกเอกสารอย่างรวดเร็ว
แล้วกลับมาโทรศัพท์ต่อ
ครั้นวางหูโทรศัพท์เสร็จก็สั่งงานเลขาฯ ต่อ

ส่วนมือหนึ่งก็เปิดบัญชีขึ้นมาดู แต่ไม่ทันไรก็หยุด
พร้อมส่ายตามองหาอะไรสักอย่างบนโต๊ะซึ่งมีเอกสารกองสุ่มอยู่เต็ม
ด้วยความหวังดี เลขาฯ จึงเอ่ยถามว่า

"หาอะไรอยู่หรือคะ เผื่อดิฉันจะช่วยหาได้"


"ดินสอของผมหายไปไหน"
"เหน็บอยู่ที่หูของท่านไงคะ"
"หูข้างไหนล่ะ บอกมาเร็ว ผมไม่มีเวลามากหรอกนะ"










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น