แต่งตัวให้ดอกไม้


มาลัยชายเดียว


วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2553

เรื่องของหมา

......เรื่องของหมา







อาราย....หว่า





คุยเพลิน





นั่งดีดี!!!!จิ












เรื่องหมาหมา...สี่ขาผู้มีความสุข

เรื่อง หมาหมา...สี่ขาผู้ให้ความสุข



เรารักกันนะ......





แข็งจังครับ....เจ้านาย









งวดหน้าออกสี่สี่แน่เลย









หนูสวยไหมคะ ???







สบายจังเลยครับ...เจ้านาย




อบอุ่นที่สุดเลย





เราเป็นเพื่อนกันตลอดไปนะ.....






วันศุกร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2553

รู้จักรัก





การมีคนรัก
ไม่ได้หมายความว่าคุณรู้จักรัก


ความรู้สึกแสนดี
การมีเรื่องประทับใจ
ได้ช่วยกันสานสายใยผูกพัน
เป็นเพียงเปลือกนอกของความรัก






เนื้อแท้ของความรัก
คือการมีกันและกันในยามยาก
แก่นสารของความรัก
คือการรู้ทางที่จะร่วมกอดคอ
เดินหน้าไปสู่ความดับทุกข์
ไม่เหลือแม้้น้ำตาอาลัยกันในยามตาย





...จากหนังสือ..ดังตฤณวิสัชนา ฉบับ รู้จักรัก













คำคม...สอนใจ





การที่คุณบอกความในใจกับใครคนนั้นไป มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย
เพราะบางทีใครคนนั้นอาจกำลังรอคำพูดของคุณอยู่






เรือที่จอดอยู่ในท่าจะปลอดภัยที่สุด
แต่เรือไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้จอดอยู่ในท่า

เธอจะพบความสวยงามของมหาสมุทรได้อย่างไร
หากเธอไม่กล้าพอที่จะออกไปไกลจากฝั่ง

สำหรับคนที่มีความอดทน
แม้ชั่วโมงที่ยากลำบากที่สุดก็ยาวนานเพียง 60 นาที

วันที่ยาวนานที่สุดคือวันที่หัวใจของเธอ
ไม่มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

ฉันเป็นคนมั่งมี
ไม่ใช่เพราะฉันมีมากมาย
แต่เป็นเพราะว่าฉันมีมากพอ
เทียนที่นำไปจุดเทียนเล่มอื่นจะไม่สูญเสียความสว่างของตัวเอง
แต่จะทำให้ห้องสว่างไสวขึ้น

บางครั้ง เราอาจไม่เข้าใจการกระทำของตัวเอง
ฉะนั้นจึงไม่ควรตัดสินการกระทำของคนอื่น

ถ้ามองแต่ความผิดของคนอื่น เธอจะมีแต่ความเกลียด
ถ้ามองแต่ความดีของคนอื่น เธอจะมีแต่ความรัก

เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้น อย่ามัวคิดว่าใครเป็นคนทำ
แต่จงคิดว่าจะแก้ไขได้อย่างไร

เมื่อพบความผิดพลาด ก็นับว่า
ความผิดพลาดนั้นได้รับการแก้ไขไปแล้วส่วนหนึ่ง

เธอต้องยอมรับผลของพายุของฝนฟ้าคะนอง
ด้วยความสำเร็จขึ้นอยู่กับการกระทำไม่ใช่การอธิษฐาน
.
.

คิดทุกคำที่พูด แต่อย่าพูดทุกคำที่คิด










ธรรมะเย็นใจ


ธรรมะเย็นใจ : สอนใจตัวเองก่อน

เมื่อเราเป็นผู้ใหญ่ เป็นครู เป็นพ่อแม่

มีลูกน้อง มีลูกศิษย์ มีลูก

สมมติว่าเราเป็นพ่อแม่มีลูก

เมื่อลูกทำผิดจริง ๆ แล้วเราโกรธ ใจร้อน อย่าเพิ่งสอนลูก

สอนใจตัวเองให้ระงับอารมณ์ร้อน ให้ใจเย็น ใจดี

มีเมตตาก่อน จนรู้สึกมั่นใจว่าใจเราพร้อมแล้ว

และดูว่าลูกพร้อมที่จะรับฟังไหม ถ้าเราพร้อม

แต่ลูกยังไม่พร้อม ก็ยังไม่ต้องพูด เพราะไม่เกิดประโยชน์

เราพร้อมที่จะสอน เขาพร้อมที่จะฟัง

จึงจะเกิดประโยชน์เป็นการสอน

ถ้าเราสังเกตุดู บางครั้งใจเรารู้สึกเหมือนอยากจะสอน

แต่ความเป็ฯจริงแล้วเราเพียงอยากระบายอารมณ์ของเรา

สิ่งที่เราพูดแม้เป็นเรื่องจริง แต่ก็แฝงด้วยความโกรธ

เพราะยังเป็นความใจร้อน มีตัณหา

ถ้าใจเราโกรธ พูดเหมือนกัน พูดคำเดียวกัน นั่นคือโกรธ

ถ้าใจเราดี ใจเขาดี คำพูดของเราเป็นประโยชน์ นั่นคือ

สอน

เมื่อเราอยู่ในสังคม สิ่งที่ต้องระวังคือ หากเห็นใครทำผิด

อย่ายึดมั่นถือมั่นในความรู้สึกและความคิดของตน

อย่ายินดี อย่ายินร้าย ใจเย็น ๆ ไว้ก่อน

พยายามอบรมใจตนเองว่า

ธรรมชาติของคนเรา มักจะมองข้ามความผิดของตนเอง

ชอบจับผิดแต่คนอื่น
มองเห็นความผิดของคนอื่นเหมือนภูเขา

เห็นความผิดตนเท่ารูเข็ม

ตดคนอื่นเหม็นเหลือทน

ตดตนเองเหม็นไม่เป็นไร

ปากคนอื่นเหม็นเหลือทน

ปากของตนเหม็นไม่รู้สึกอะไร
:
:

เรามักทุ่มใจ ไปอยู่ที่ความรู้สึกนึกคิดของตนเอง

อย่าเชื่อความรู้สึก อย่าเชื่ออารมณ์ อย่ายินดี ยินร้าย

พยายามรักษาใจเย็น ใจดี ใจกลาง ๆ

ปกติเราทำผิดเหมือนกัน เท่ากัน หรืออาจจะมากกว่าเขา

แต่ความรู้สึกของเรามักจะมากกว่าเขา

และไม่เห็นความผิดของตัวเองเลยน่ากลัวจริง ๆ

สังเกตุดู คนที่ขี้บ่น ขี้โมโหว่าคนอื่นทำอะไรไม่ดี ไม่ถูก

ตัวของเขาเอง คิดดี พูดดี ทำดีไหม....ก็อาจจะไม่

เราเองก็เหมือนกัน เมื่อเราเกิดอารมณ์ไม่พอใจ

อย่าเชื่อความรู้สึกให้ระงับอารมณ์เสีย ทำใจเป็นกลาง ๆ

ไว้
:
:

อย่าเชื่อความรู้สึก

อย่าเชื่ออารมณ์

อย่ายินดียินร้าย

:

:

ธรรมะของพระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก

วัดสุนันทวนาราม

บ้านท่าเตียน ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัด

กาญจนบุรี

จากหนังสือเหตุสมควรโกรธ....ไม่มีในโลก
:
:

วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2553

จุดหมายปลายทางของชีวิต

จุดหมายปลายทางของชีวิต





เมื่อใดเปลือกฟองไข่ หรือกะลามะพร้าวที่หุ้มครอบอยู่นั้น

ได้ถูกเพิกออกหรือทำลายลง,

แสงสว่างก็จะสาดส่องถึงสิ่งที่อยู่ข้างในทั้งที่ไม่ต้องมีใครขอร้องอ้อนวอน

หรือบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใด ฉันใด; ฝ้าของใจ
กล่าวคืออวิชชา อุปาทาน ตัณหา อันเป็นฝ้าทั้งหนาและบาง
ทั้งชั้นนอก ชั้นกลาง ชั้นในถูกลอกออก ด้วยการปฏิบัติธรรมแล้ว
เมื่อนั้น แสงหรือรสแห่งพระนิพพาน ก็เข้าสัมผัสกันกับจิตได้ ฉันนั้นฯ



เมื่อจิตบริสุทธิ์แล้ว มีโอกาสสัมผัสพระนิพพานได้อย่างนี้
เราจึงเห็นได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งทันทีว่า
พระนิพพานไม่ใช่จิต, ไม่ใช่เจตสิกอันเกิดอยู่กับจิต,
ไม่ใช่รูปธรรม, ไม่ใช่โลกบ้านเมือง, ไม่ใช่ดวงดาว,
ไม่ใช่อยู่ ในเรา, ไม่ใช่เกิดจากเรา, ไม่ใช่อะไรปรุงขึ้นทำขึ้น,
พระนิพพาน เป็นเพียงสิ่งที่เข้ามาสัมผัสดวงใจเรา
ในเมื่อ เราได้ดำเนินการปฏิบัติธรรมถึงที่สุด เท่านั้นเองฯ





คติธรรมในการทำงาน

คนใจร้อน


หนุ่มเลือดร้อนเข้าไปนั่งในร้านก๋วยเตี๋ยวไม่ทันไรก็ตะโกนว่า
"ทำไมยังไม่ยกก๋วยเตี๋ยวมาสักที จะให้รอถึงชาติหน้าหรือไง"

สักประเดี๋ยวเจ้าของร้านก็ออกมาพร้อมก๋วยเตี๋ยวเต็มชาม
แต่พอถึงโต๊ะพ่อหนุ่มก็เทก๋วยเตี๋ยวกองบนโต๊ะแล้วบอกว่า

"ฉันต้องรีบใช้ชาม คุณเองก็รีบกินเข้า จะต้องรีบใช้โต๊ะ"

ชายหนุ่มเดือดดาลมาก กลับถึงบ้านก็เล่าให้ภรรยาฟังแล้วบอกว่า
"ฉันเนี่ยโกรธตายเลย" ภรรยาได้ฟังดังนั้นก็รีบเก็บข้าวของใส่กระเป๋า

แล้วพูดว่า "เนื่องจากเธอตายแล้ว ฉันจะไปแต่งงานใหม่"

วันรุ่งขึ้นหลังจากภรรยาแต่งงานใหม่
เจ้าบ่าวคนใหม่ก็ขอหย่าโดยให้เหตุผลว่า "ก็เธอไม่ยอมมีลูกสักที"







คนใจร้อนมักหงุดหงิดเวลาเจอคนที่ใจเย็น หรือเชื่องช้ากว่าตน
แต่ลองได้เจอคนที่ใจร้อนและเร็วกว่าตน ก็จะรู้ว่ามันแย่กว่ามาก

เวลาเราคาดคั้นเร่งรัดใคร เราไม่รู้ดอกว่าเราสร้างความทุกข์แก่เขาแค่ไหน
ต่อเมื่อถูกคนอื่นคาดคั้นเอากับเราบ้าง
จึงจะรู้ซึ้งแก่ใจว่าคนใจร้อนนั้นน่ารำคาญเพียงใด



ทุกวันนี้ใครต่อใครดูเร่งรีบกันไปหมด
เพราะเราพากันเชิดชูบูชาความเร็ว จะทำอะไรต้องให้เสร็จไว ๆ

ถ้าจะเปิดปุ๊บก็ต้องติดปั๊บ ถ้าจะกินกาแฟก็ต้องเป็นอินแสตนต์คอฟฟี่
ส่วนก๋วยเตี๋ยวก็ต้องเป็นมาม่าไวไวถึงจะถูกใจ

แม้กระทั่งเวลาทำสมาธิ ก็อยากบรรลุในวันนี้วันพรุ่ง
เราต่างถูกสอนว่าเวลานั้นเป็นเงินเป็นทอง


ดังนั้นจึงพยายามใช้เวลาอย่างประหยัดที่สุด
ทุกอย่างต้องให้เสร็จในเวลาน้อยที่สุด จะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่น

แต่น่าแปลกที่ว่ายิ่งรีบเท่าไร ยิ่งประหยัดเวลามากเท่าไร
เวลาว่างกลับเหลือน้อยลง วันแล้ววันเล่า
ชีวิตก็ยังยุ่งเหยิงตั้งแต่เช้ามืดจรดดึกดื่น

เป็นเพราะคอยไม่เป็น เราจึงเย็นไม่ได้เสียที
นั่นยังไม่เท่าไรหากว่าคนอื่น ๆ ใจเย็นกว่าเรา

แต่ถ้าคนรอบตัวล้วนใจร้อนพอ ๆ กัน โลกนี้ก็คือนรกดี ๆ นี่เอง

ลองช้าลงสักนิด เย็นลงสักหน่อย เราจะมีความสุขกว่านี้มาก
อย่างน้อยตัวเราก็จะเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น
ไม่เหมือนกับผู้จัดการในเรื่องข้างล่าง


จันทร์ต้นเดือนเริ่มด้วยความอลหม่าน ผู้จัดการเอียงคอหนีบหูโทรศัพท์
ขณะสั่งงานเลขาฯ ส่วนมือก็กดแป้นคอมพิวเตอร์ไวเป็นระวิง

ประเดี๋ยวก็รีบไปคว้าแฟ้มในตู้ พลิกเอกสารอย่างรวดเร็ว
แล้วกลับมาโทรศัพท์ต่อ
ครั้นวางหูโทรศัพท์เสร็จก็สั่งงานเลขาฯ ต่อ

ส่วนมือหนึ่งก็เปิดบัญชีขึ้นมาดู แต่ไม่ทันไรก็หยุด
พร้อมส่ายตามองหาอะไรสักอย่างบนโต๊ะซึ่งมีเอกสารกองสุ่มอยู่เต็ม
ด้วยความหวังดี เลขาฯ จึงเอ่ยถามว่า

"หาอะไรอยู่หรือคะ เผื่อดิฉันจะช่วยหาได้"


"ดินสอของผมหายไปไหน"
"เหน็บอยู่ที่หูของท่านไงคะ"
"หูข้างไหนล่ะ บอกมาเร็ว ผมไม่มีเวลามากหรอกนะ"